ความสัมพันธ์ระหว่างนามะฮฺรัม 2 คน, กว้างมากซึ่งแน่นอนว่าบางองค์ประกอบของมันไม่มีปัญหาแต่อย่างใด จากคำถามที่ได้ถามมานั้น ยังมีความเคลือบแคลงอยู่ แต่จะขอตอบคำถามนี้ในหลายสถานะด้วยกัน
รายงานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาย นามะฮฺรัม :
1-อุซูลกาฟียฺ จากรายงานของ สะอ์ดฺ อัลอัสกาฟ รายงานจากท่านอิมาม บากิร (อ.) กล่าวว่า : ชายหนุ่มชาวอันซอรได้เดินอยู่ในตรอกเมืองมะดีนะฮฺ และได้พบหญิงสาวเดินสวนทางมา ซึ่งในช่วงนั้นสตรียังมิได้มีการคุมผ้าเรียบร้อยตามคำสอนของอิสลาม นางได้คลุมผ้าโดยใบหูสองข้างของนางยังมองเห็น เมื่อสตรีนางนั้นได้เดินผ่านเขาไป เขาได้เดินสะกดรอยตาม, และจ้องมองจากด้านหลัง เมื่อไปถึงช่วงแคบของซอย, เผอิญใบหน้าของฝ่ายได้เกี่ยวกับของแข็งที่กำแพงจนเป็นแผล และมีเลือดไหลออกมา ขณะนั้นสตรีคนดังกล่าวก็หายตัวไป เลือดได้ไหลเปื้อนเสื้อและหน้าอก เขาได้พูดกับตัวเองว่า : ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า ฉันจะไปหาท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) และจะเล่าเรื่องให้ท่านฟังทั้งหมด.
ชายหนุ่มคนนั้นได้มาหาท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) เมื่อท่านศาสดาได้เห็นเขา จึงถามขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือ? ชายหนุ่มได้เล่าเรื่องราวให้ท่านศาสดาฟัง หลังจากนั้นญิบรออีกได้ลงมา[1] และนำเอาโองการนี้มาให้ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ)
قُلْ لِلْمُؤْمِنِینَ یَغُضُّوا مِنْ أَبْصارِهِمْ وَ یَحْفَظُوا فُرُوجَهُمْ ذلِکَ أَزْکى لَهُمْ إِنَّ اللَّهَ خَبِیرٌ بِما یَصْنَعُونَ؛
“จงบอกแก่บรรดาบุรุษผู้มีศรัทธา ให้พวกเขาลดสายตาของพวกเขาลงต่ำ และให้พวกเขารักษาอวัยวะเพศของพวกเขา นั่นเป็นการบริสุทธิ์ยิ่งแก่พวกเขา แท้จริงอัลลอฮฺทรงรอบรู้สิ่งที่พวกเขากระทำ”[2]
2-ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า : ในวันฟื้นคืนชีพนั้นดวงตาทั้งหลายจะร้องไห้ ยกเว้นดวงตา 3 ประเภท, ได้แก่ดวงตาที่ร้องไห้เพราะความเกรงกลัวต่ออัลลอฮฺ, ดวงตาที่ได้ปิดลงเมื่อพบสิ่งที่อัลลอฮฺห้ามมิให้มอง (เช่นมองหญิงหรือชายที่แต่งงานกันได้) และดวงตาที่ไม่ได้หลับในหนทางของอัลลอฮฺ”[3]
3- ท่านอิมามริฎอ (อ.) กล่าวว่า : เป็นฮะรอม (ต้องห้าม) สำหรับผู้ศรัทธาที่จะมองผมของสตรีที่มีสามีและไม่มีสามี เนื่องจากสิ่งนั้นจะเป็นสาเหตุกระตุ้นความต้องการ และจะโน้มนำไปสู่การก่อความเสียหายได้”[4]
หัวข้อที่เกี่ยวข้อง :
คำถามที่ 15749 (ไซต์ : 15465) (อิสลามและความสัมพันธ์ถูกต้องระหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว)
คำถามที่ 6669 (ไซต์ 6745)(การติดต่อกันหว่างชายหนุ่มและหญิงสาว)
[1] เฏาะบาเฏาะบาอี,มุฮัมมัด ฮุซัยนฺ,อัลมีซานฉบับแปล, เล่ม 15, หน้า 160, ตัฟตัรอิงติชารอตอิสลามี, กุม, ปี 1374
[2] อัลกุรอาน บทนูร, 30.
[3] มัชฮะดียฺ, มุฮัมมัด, กันซุลดะกออิก วะบะฮฺรุลเฆาะรออิบ,เล่ม 9, หน้า 278, ซอเซมอนอินติชารอต วะซารัต เอรชาด, เตหะราน, ปี 1368
[4] มัจญฺลิซ, มุฮัมมัด บากิร, บิฮารุลอันวาร, เล่ม 101, หน้า 34, ดารุลวะฟาอ์, เบรูต, บีทอ