ฮัจญฺ เป็นหนึ่งในพิธีกรรมที่มากไปด้วยรหัสยะและเครื่องหมายต่างๆ มากมาย ซึ่งมนุษย์ล้วนแต่นำพามนุษย์ไปสู่การคิดใคร่ครวญ และธรรมชาติแห่งตัวตน เป็นการดีอย่างยิ่งถ้าหากเราจะคิดใคร่ครวญถึงขั้นตอนการประกอบพิธีฮัจญฺ ชนิดก้าวต่อก้าวทั้งภายนอกและภายในของขั้นตอนการกระทำเหล่านั้น, เนื่องจากภายนอกของพิธีกรรมทีบทบัญญัติอันเฉพาะเจาะจง จำเป็นที่ผู้ปฏิบัติทุกท่านต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แต่ถ้ามองเลยไปถึงด้านในของพิธีกรรมฮัจญฺ ถึงปรัชญาของการกระทำเหล่านี้ก็จะพบว่ามีรหัสยะและความเร้นลับต่างๆ อยู่มากมายเช่นกัน
การสวมชุดอิฮฺรอม, เป็นหนึ่งในขั้นตอนการประกอบพิธีฮัจญฺ ซึ่งพิธีฮัจญฺนั้นจะเริ่มต้นด้วยการครองชุดอิฮฺรอม, ชุดที่มีความเฉพาะเจาะจงพิเศษสำหรับการปฏิบัติพิธีฮัจญฺ, ถ้าพิจารณาจากภายนอกสามารถได้บทสรุปเช่นนี้ว่า อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงมีบัญชาให้ปวงบ่าวปฏิบัติวาญิบที่ยิ่งใหญ่ประการหนึ่งของพระองค์, ซึ่งพระองค์ทรงกำหนดการสวมชุดอิฮฺรอม ให้เป็นข้อบังคับ (วาญิบ) และชุดนี้ก็จะต้องมีเงื่อนไขพิเศษอันเฉพาะตัวด้วย เช่น ต้องสะอาด, ต้องไม่ตัดเย็บ และ...[1]
ความเร้นลับของการสวมชุดอิฮฺรอม
1.ชุดอิฮฺรอม, คือการทดสอบหนึ่งในภราดรภาพและความเสมอภาค เป็นตัวเตือนสำหรับความตายที่รออยู่เบื้องหน้า, เป็นเครื่องหมายหนึ่งที่บ่งบอกให้เห็นว่า มนุษย์หลุดพ้นพันธนาการแห่งการทดสอบ และการผูกพันอยู่กับโลกแล้ว, เขากำลังอยู่ ณ เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร เขาได้เข้าไปสู่ธรรมชาติของมนุษย์คือ ความบริสุทธิ์และปราศจากการปนเปื้อน
2.ชุดอิฮฺรอมทำให้คนยากจนและกษัตริย์มีความเสมอภาคกัน, อยู่ที่ไหนกันหมดหรือบรรดาผู้หยิ่งผยองทั้งหลาย เพื่อท่านจะได้เห็นภาพอันน่าประหลาดใจที่บรรดามุสลิมได้แสดงขึ้น พวกเขาได้หลั่งไหลมาเดินเวียนรอบบ้านของพระเจ้า (กะอฺบะฮฺ) จากทุกมุมโลก พวกเขาได้รวมตัวกัน ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ บนแผ่นดินเดียวกัน ด้วยเสื้อผ้าเหมือนกัน และพวกท่านจะได้เห็นว่าในหมู่พวกเขา ณ เวลานั้นไม่มีใครดีกว่าใครทั้งสิ้น ยกเว้นผู้ที่มีความสำรวมตนเท่านั้น[2]
3. ผ้าสองผืนสำหรับชุด อิฮฺรอม มีความคล้ายเหมือนกับ กะฟั่น, การกะฟั่น (ห่อศพ) ผู้ตายด้วยผ้าอิฮฺรอมของเขา เป็นมุสตะฮับ[3] แน่นอนว่า การสวมชุดอิฮฺรอม ย่อมทำให้เราสำนึกถึงความน่ากลัวต่างๆ เวลาตาย ความยากลำบาก ความทุกข์ระทมต่างๆ ในขั้นตอนทั้งหลายหลังจากตายไปแล้ว และสำนึกถึงความน่ากลัวของวันฟื้นคืนชีพ
4.มนุษย์ทุกคนจากอดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต พวกเขาได้สวมเสื้อผ้าต่างสีสันและต่างลักษณะกัน และจะไม่มีวันคล้ายเหมือนกันเด็ดขาด นอกจากนั้นคุณภาพของเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเขาได้ถูกเชิญไปสู่การประกอบพิธีฮัจญฺ และเขาได้ตอบรับคำเชิญของพระเจ้า, เขาได้ปรากฏตัวยังสถานที่อันเฉพาะที่ได้จัดเตรียมไว้เพื่อพิธีฮัจญฺ ด้วยการสวมชุดอิฮฺรอม พยายามขจัดความภาคภูมิใจ เกียรติยศ ความเห็นแก่ตัว และร่องรอยของมันให้พ้นไปจากตนเอง, เนื่องจากชุดอิฮฺรอมคือ เครื่องหมายแห่งการปฏิเสธความอวดดีและความเห็นแก่ตัว
คำถามนี้ไม่มีคำตอบโดยละเอียด
[1] อิมามโคมัยนี, ซัยยิดรูฮุลลอฮฺ, มะนาซิกฮัจญฺ,หน้า 138-140, พิมพ์ที่ มัชอัร, เตหะราน, พิมพ์ครั้งที่ 4, ปี 1416.
[2] บทฮุจญฺรอต, 13, (โอ้ มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างสูเจ้าทั้งจากเพศชายและเพศหญิง เราได้แยกสูเจ้าเป็นชนชาติและเผ่าพันธุ์เพื่อจะได้รู้จักกัน แท้จริง ผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่สูเจ้า ณ อัลลอฮฺคือ ผู้ที่มีความสำรวมตนยิ่งในหมู่สูเจ้า อัลลอฮฺคือพระผู้ทรงรอบรู้ ทรงตระหนักยิ่ง)
[3] อิมามโคมัยนี, ซัยยิดรูฮุลลอฮฺ, ตะฮฺรีรุลวะซีละฮฺ, เล่ม 1, หน้า 75, สำนักพิมพ์ สถาบันดารุลอิลมฺ, กุม, พิมพ์ครั้งแรก,บีทอ