การโคลนนิ่ง โดยเฉพาะการโคลนนิ่งมนุษย์ ถือเป็นประเด็นปัญหาใหม่ จึงไม่อาจจะพบโองการกุรอานหรือฮะดีษที่ระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง อย่างไรก็ดี ผู้รู้และนักวิชาการชีอะฮ์ได้ใช้กระบวนการวินิจฉัยหลักฐานจากกุรอานและฮะดีษ ทำให้สามารถแสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็นสามทัศนะด้วยกัน
ก. มัรญะอ์บางท่านถือว่าหากไม่มีตัวแปรอื่นใด อนุมัติให้กระทำได้
ข. บางท่านอนุญาตในวงแคบ และตามเงื่อนไขที่จำกัด
ค. บางท่านถือว่ากระบวนการโคลนนิ่งเป็นฮะรอมโดยสิ้นเชิง
เพื่อความกระจ่าง เราจะขอเกริ่นด้วยข้อมูลเบื้องต้นพอสังเขป
ก. กระบวนการโคลนนิ่ง: มีลำดับขั้นตอนต่างๆดังนี้
1. ดูดไข่ออกมาจากรังไข่
2. ดูดนิวเคลียสออกจากไข่ เพื่อใช้เป็นไซโตพลาสผู้รับ (ไข่ที่ปราศจากนิวเคลียสจะสูญเสียโครโมโซมทั้ง23ชนิดไป ซึ่งทำให้สูญเสียลักษณะทางพันธุกรรม แต่ก็ยังมีเหลืออยู่บ้าง)
3. คัดเลือกเซลล์ร่างกายเพื่อเป็นเซลล์ต้นแบบ จากนั้นฉีดเข้าไปในไซโตพลาสผู้รับ(ไข่ที่ปราศจากนิวเคลียส) ทำให้ไข่มีโครโมโซมที่จำเป็น(46ชนิด)อย่างครบถ้วน
4. กระตุ้นไข่ด้วยไฟฟ้าหรือสารเคมี เพื่อเชื่อมต่อไข่กับเซลล์และกระตุ้นการแบ่งเซลล์
5. หลังจากที่เซลล์แบ่งตัวตามต้องการแล้ว ย้ายตัวอ่อนไปฝากในครรภ์ผู้รับ
6. หลังจากระยะที่กำหนด ตัวอ่อนจะเจริญเติบโตและคลอดออกมา ทารกที่เกิดจะคล้ายกับผู้ให้เซลล์ร่างกายถึง 97% (ยกเว้นอิทธิพลเล็กน้อยของดีเอ็นเอที่มีอยู่ในไมโตคอนเดรีย) และทารกจะมีเพศตรงกับผู้ให้เซลล์.[1]
ข. ประเภทการโคลนนิ่ง:
1. โคลนนิ่งระหว่างสัตว์ ไม่ว่าจะสายพันธ์เดียวกันหรือไม่
2. ระหว่างพืชและสัตว์
3. ระหว่างสัตว์และมนุษย์
4. ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งมีหลายกรณี เช่น เป็นสามีภรรยากันหรือไม่ เจ้าของครรภ์สมรสแล้วหรือไม่ ฯลฯ ซึ่งแต่ละกรณีก็มีบทบัญญัติศาสนาที่แตกต่างกัน[2]
ประเด็นที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษคือ ผลกระทบต่างๆที่อาจจะเกิดจากการโคลนนิ่งมนุษย์ อาทิเช่น
1. ทำให้เชื้อสายมนุษย์คละกัน
2. ทำให้สับสนเกี่ยวกับสถานะในครอบครัว
3. ขาดผู้รับผิดชอบในฐานะผู้ปกครอง
4. ทำให้สับสนในการแบ่งมรดกและค่าเลี้ยงดู
5. อาจทำให้มีทารกพิการ
6. อาจทำให้ทารกป่วยเป็นโรคแปลกประหลาด
7, ขัดต่อหลักความแตกต่างของบุคคล
8. ลดอัตราการแต่งงานและทำลายสถาบันครอบครัว
9. ทำลายสถานภาพความเป็นแม่
10. อาจส่งผลให้ผิดประเวณี
11. อาจส่งผลให้รักร่วมเพศระบาด
12. อาจตกเป็นเครื่องมือประกอบอาชญากรรม และข้อกังวลทางศาสนาอื่นๆ[3]
ผลกระทบเหล่านี้สร้างความลำบากใจแก่แวดวงนักการศาสนาของคริสเตียนและพี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์อย่างยิ่ง กระทั่งขนานนามว่าเป็นปัญหาแห่งศตวรรษ พระสันตปาปาได้ออกแถลงการณ์ห้ามโคลนนิ่งเนื่องจากขัดต่อเกียรติของมนุษย์ ส่วนพี่น้องอะฮ์ลิสซุนนะฮ์ก็จัดประชุมระดมความคิดกว่าสิบครั้ง ซึ่งมติที่ประชุมเกือบจะเอกฉันท์เห็นว่าเป็นฮะรอม[4] มีเพียงดร.มะห์รู้ส นักวิชาการมัซฮับฮะนะฟีจากอิรักเท่านั้นที่ถือว่าอนุมัติ [5]
ผู้รู้ฝ่ายชีอะฮ์บางท่านได้ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยไม่ถือว่าผลกระทบข้างต้นจะทำให้กระบวนการโคลนนิ่งกลายเป็นฮะรอม[6]
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สามารถจำแนกทัศนะของมัรญะอ์ชีอะฮ์ได้ดังนี้
1. อนุญาต(หากไม่มีตัวแปรอื่น) 2. อนุญาตในวงจำกัด 3. ฮะรอมโดยสิ้นเชิง[7]
1. อนุญาต(หากไม่มีตัวแปรอื่น)
มัรญะอ์บางท่านถือเหตุผลที่ว่า ในเมื่อไม่มีหลักฐานศาสนาใดๆที่ระบุว่าห้ามโคลนนิ่งมนุษย์ จึงอาศัยกฏแห่ง“ฮิ้ลล์”(ทุกสิ่งเป็นที่อนุมัตินอกจากจะมีคำสั่งห้าม) และกฏแห่ง“อิบาฮะฮ์”ในการวินิจฉัยอนุมัติ
บรรดาผู้รู้เช่น อายะตุ้ลลอฮ์ฯ ซีสตานี, มูซาวี อัรดะบีลี, ฟาฎิ้ล ลังกะรอนี, ฟัฎลุลลอฮ์, มุฮัมมัด มุอ์มิน ฯลฯ ได้ตอบข้อซักถามที่ว่า “การให้กำเนิดมนุษย์ในห้องทดลองด้วยกรรมวิธีโคลนนิ่งอันทันสมัย เป็นที่อนุมัติหรือไม่?” โดยตอบว่า “โดยตัวของมันเองไม่มีปัญหาอะไร”[8]
ผู้รู้บางท่าน[9]นอกจากจะตอบว่าอนุมัติแล้ว ยังชี้แจงถึงเหตุผลที่ทำให้ผู้อื่นฟัตวาห้ามอีกด้วย[10]
แต่ผู้รู้บางส่วนก็เห็นว่า ในกรณีที่การโคลนนิ่งจะบังเกิดผลเสียที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก็ให้ถือว่าเป็นฮะรอมในลักษณะซานะวีย์ (ฮะรอมเนื่องจากตัวแปร) อายะตุ้ลลอฮ์ฯ ซัยยิด กาซิม ฮาอิรี และ อายะตุ้ลลอฮ์ฯ มะการิม ชีรอซี ถือทัศนะนี้[11]
2. อนุญาตในวงจำกัด
บางท่านถือว่าการโคลนนิ่งเป็นที่อนุมัติในเบื้องต้นตามหลักฐานและหลักการในภาพรวม แต่ก็เชื่อว่าการโคลนนิ่งในวงกว้างจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมา ซึ่งเชคฮะซัน ญะวาฮิรี ถือตามทัศนะนี้ ไม่เพียงแต่ท่านจะถือว่าการโคลนนิ่งในระดับปัจเจกบุคคลเป็นที่อนุมัติ แต่ยังได้ฟัตวาห้ามผู้ใดกล่าวอ้างว่าการโคลนนิ่งเป็นฮะรอมอีกด้วย เนื่องจากท่านเชื่อว่าเป็นการวินิจฉัยที่ไร้เหตุผลรองรับ[12]
3. ฮะรอมโดยสิ้นเชิง
ผู้ที่ถือตามทัศนะนี้มี อายะตุ้ลลอฮ์ฯ ตั้บรีซี และ อัลลามะฮ์ มุฮัมมัดมะฮ์ดี ชัมซุดดีน ชาวเลบานอน ซึ่งไม่เพียงแต่ห้ามการโคลนนิ่งมนุษย์ แต่ยังห้ามรวมไปถึงการโคลนนิ่งสัตว์ด้วย[13]
[1] เจาะลึกฟิกเกาะฮ์: การโคลนนิ่งมนุษย์จากมุมมองผู้รู้ชีอะฮ์,สำนักงานกิจการเผยแพร่อิสลาม,หน้า 6
[2] อัลอิสตินซ้าค บัยนัตตักนียะฮ์ วัตตัชรี้อ์, ซัยยิดอลี มูซา ซับซะวอรี,หน้า 43
[3] คัดจากนิตยสารอุฟุกเฮาซะฮ์, และ การโคลนนิ่งมนุษย์จากมุมมองผู้รู้ชีอะฮ์
[4] อ้างแล้ว
[5] อ้างแล้ว
[6] ดู: การโคลนนิ่งมนุษย์และชุดฟัตวาการแพทย์,ซัยยิด มุฮัมมัด ฮะกีม
[7] เจาะลึกฟิกเกาะฮ์: การโคลนนิ่งมนุษย์จากมุมมองผู้รู้ชีอะฮ์,สำนักงานกิจการเผยแพร่อิสลาม,หน้า 32
[8] อ้างแล้ว
[9] อายะตุ้ลลอฮ์ ซัยยิด มุฮัมมัด สะอี้ด ฮะกีม
[10] เจาะลึกฟิกเกาะฮ์: การโคลนนิ่งมนุษย์จากมุมมองผู้รู้ชีอะฮ์,สำนักงานกิจการเผยแพร่อิสลาม,หน้า 32
[11] อ้างแล้ว
[12] อ้างแล้ว
[13] อ้างแล้ว