การค้นหาขั้นสูง
ผู้เยี่ยมชม
5994
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2550/09/29
คำถามอย่างย่อ
เหตุผลของการเลือกบรรดาศาสดาและอิมาม ท่ามกลางปวงบ่าวอื่นๆ?
คำถาม
เหตุผลของการเลือกบรรดาศาสดาและอิมาม ท่ามกลางปวงบ่าวอื่นคืออะไร? เพราะเหตุใดมุฮัมมัดจึงเป็นผู้ถูกเลือกสรรของพระเจ้า และเป็นบ่าวที่ดีที่สุด? แล้วประเด็นนี้เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาก่อนการประสูติของท่านด้วยหรือไม่?
คำตอบโดยสังเขป

บนพื้นฐานของเหตุผลทั่วไปแห่งสภาวะการเป็นศาสดา คือ การชี้นำมวลมนุษยชาติ, พระองค์จึงเลือกสรรประชาชาติบางคนจากหมู่พวกเขาในฐานะของแบบอย่าง, เพื่อเป็นตัวแทนและเป็นผู้ชี้นำทาง แน่นอนการเลือกสรรนี้มิได้ปราศจากเหตุผล

คำอธิบาย ศักยภาพในการเป็นเคาะลิฟะฮฺของพระเจ้า ได้ถูกมอบแก่มนุษย์ทุกคนแล้ว เพียงแต่ว่ามิใช่มนุษย์ทุกคนจะไปถึงขั้นนั้นได้, มีเฉพาะบางคนเท่านั้นที่มีศักยภาพพอ และด้วยการอิบาดะฮฺทำให้เขาได้ไปถึงยังตำแหน่งของการเป็นตัวแทนของพระองค์บนหน้าแผ่นดิน และพวกเขาจะไม่กระทำความผิดตามเจตนารมณ์เสรีของตน, อัลลอฮฺ ทรงรอบรู้ถึงสภาพของพวกเขาทั้งก่อนการสร้างในรูปแบบภายนอก และทรงรอบรู้ถึงสภาพและความประพฤติของพวกเขาเป็นอย่างดี, การตอบแทนผลรางวัลแก่การงานของพวกเขา, พระองค์ทรงเลือก มอบสาส์น และความคู่ควรการเป็นผู้นำสังคมแก่พวกเขา, ดังนั้น ความเร้นลับในการเลือกสรรจึงวางอยู่บน 2 เหตุผล กล่าวคือ

1.การแสดงความเคารพสมบูรณ์ของหมู่มิตรของพระเจ้าที่มีต่อพระองค์

2.ความเมตตาและความการุณย์พิเศษของพระเจ้า ที่มีต่อหมู่มิตรของพระองค์

สรุป ความเมตตาการุณย์ของพระเจ้าที่ทรงมีต่อบรรดาศาสดา และบรรดาอิมาม (อ.) เนื่องจากว่า หนึ่ง : วางอยู่บนศักยภาพและความเพียรพยายามของพวกเขา และสอง : การมอบความเมตตานี้ ตามความเป็นจริงแล้วเป็นความเมตตาประเภทหนึ่งที่มีต่อปวงบ่าวทุกคน เพื่อการชี้นำทางพวกเขา, ซึ่งวางอยู่บนวิทยปัญญาและความยุติธรรม.

คำตอบเชิงรายละเอียด

บนเหตุผลทั่วไปของการเป็นศาสดา, อัลลอฮฺทรงเลือกสรรประชาชาติบางคนในหมู่พวกเขา ให้เป็นแบบอย่างและเป็นผู้ช้ำนำแก่พวกเขา ซึ่งบรรดาผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรนั้นมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น มีความรู้ และความบริสุทธิ์ ด้วยเหตุนี้เอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าบรรดาศาสดาและบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) ต่างได้รับความการุณย์พิเศษจากพระเจ้า ทว่าความการุณย์พิเศษที่พระองค์ทรงมอบให้นี้เกิดจากศักยภาพ ความดีงาม และความปรารถนาของบรรดาผู้บริสุทธิ์, กล่าวคือ อัลลอฮฺ ทรงรอบรู้ด้วยวิทยปัญญาอันสมบูรณ์และนิรันดร์ของพระองค์ว่า มีบางกลุ่มชนจากปวงบ่าวทั้งหลายมีศักยภาพเหนือกว่าบุคคลอื่น และเป็นผู้เชื่อฟังปฏิบัติตามพระองค์โดยจริงใจและบริสุทธิ์ใจยิ่ง ด้วยเหตุนี้เอง พระองค์จึงเลือกพวกเขาจากหมู่ประชาชาติทั้งหลาย และทรงมอบความเมตตาพิเศษตลอดจนรางวัลแก่พวกเขา และพระองค์ทรงรอบรู้ดียิ่งว่า พวกเขาจะไปถึงยังตำแหน่งของผู้บริสุทธิ์สมบูรณ์ด้วยความรู้ และความปรารถนาของตนเอง เพื่อว่าจะได้ประสบความสำเร็จในการชี้นำทาง และเป็นที่เชื่อถือและมั่นใจสำหรับบุคคลอื่น

อัลกุรอาน และรายงานจำนวนมากมายได้บ่งชี้ถึงประเด็นดังกล่าว ซึ่งจะขอหยิบยกมาอธิบายบางส่วน ดังนี้, อัลลอฮฺ ตรัสไว้ในอัลกุรอานว่า : และจากพวกเขา เราได้ตั้งให้พวกเขาเป็นผู้นำ เพื่อจะได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง (แก่ประชาชน) ตามคําบัญชาของเรา เนื่องจากพวกเขามีความอดทนและมีความเชื่อมั่นต่อโองการทั้งหลายของเรา.[1]

ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวถึงประเด็นดังกล่าวว่า : แน่นอน อัลลอฮฺ ทรงเลือกสรรมนุษย์จากบุตรหลานของอาดัม ทรงทำให้การถือกำเนิดและร่างกายของพวกเขาสะอาดบริสุทธิ์ แล้วทรงปกป้องพวกเขาไว้ในไขสันหลังของบุรุษ และรังไข่ของสตรี มิใชเป็นเพราะว่าอัลลอฮฺทรงปรารถนาจึงเป็นเช่นนั้น, ทว่าอัลลอฮฺ ทรงทราบดียิ่งนับตั้งแต่เริ่มสร้างว่า พวกเขาจะเชื่อฟังปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ พวกเขาจะแสดงความเคารพภักดีต่อพระองค์เสมอ โดยพวกเขาจะไม่ตั้งภาคีเทียบเทียมพระองค์ [แม้แต่ภาคีชนิดเบาบางที่สุด] ดังนั้น พวกเขาจึงถูกประทานลงมาจากพระเจ้า เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้เชื่อฟังปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ และเป็นผู้มีเกียรติอันสูงส่ง ณ พระองค์[2]

ตอนเริ่มแรกของดุอาอฺ นุดบะฮฺ กล่าวว่า : โอ้ อัลลอฮฺ ขอขอบคุณพระองค์, พระองค์ทรงวางเงื่อนไขกับพวกเขา (หมู่มิตรของพระองค์) ว่า จงอย่าลุ่มหลงต่อความสวยงาม และตำแหน่งทางโลก จงอย่าคิดถึงตำแหน่งใด นอกจากความใกล้ชิดต่อพระองค์ และพวกเขาก็ได้ยอมรับเงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้ และพระองค์ทรงรอบรู้ดียิ่งว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข พระองค์จึงทรงยอมรับพวกเขา และให้พวกเขาเป็นผู้ใกล้ชิดต่อพระองค์ ด้วยความดีงามเหล่านี้นั่นเอง พระองค์จึงทรงประทานมลาอิกะฮฺลงมายังพวกเขา และทรงยกเกียรติยศของพวกเขาด้วยวะฮฺยูของพระองค์ และพวกเขาได้อ่านความรู้อันไร้พรมแดนจำกัดของพระองค์[3]

สรุป ศักยภาพการเป็นตัวแทนของอัลลอฮฺ ได้ถูกบรรจุอยู่ในตัวมนุษย์ทุกคน เพียงแต่ใช่ว่าทุกคนจะไปถึงยังตำแหน่งนั้น[4] การเลือกบรรดาศาสดาและบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) สืบเนื่องจากการได้รับประโยชน์อย่างความสมบูรณ์แบบของพวกเขา จากศักยภาพต่างๆ ที่อัลลอฮฺทรงมอบให้ในวิถีของการแสดงความเคารพภักดีต่อพระเจ้า และอัลลอฮฺ ทรงรอบรู้สิ่งนี้ด้วยความรู้นิรันดร์ของพระองค์ กล่าวคือ พระองค์ทรงทราบเป็นอย่างดีว่ากลุ่มชนเหล่านี้ จะใช้ศักยภาพและความสามารถทั้งหมดที่มีอยู่ไปในหนทางของพระองค์ พระองค์จึงทรงตอบแทนพวกเขา ด้วยการมอบความการุณย์อันเฉพาะพิเศษ กล่าวคือ ตำแหน่งการเป็นศาสดาและอิมามแก่พวกเขา

อย่างไรก็ตาม, การประทานความการุณย์พิเศษจากอัลลอฮฺ วางอยู่บนความเหมาะสมของบุคคล, ด้วยเหตุนี้ บางคนมิได้อยู่ในขอบข่ายของความการุณย์ดังกล่าว ก็ด้วยเหตุผลที่ว่า การมีศักยภาพดังกล่าวมิได้เป็นความเหมาะสมสำหรับพวกเขา และพวกเขาก็ไม่รู้ถึงคุณค่าเหล่านั้นด้วย

จะกล่าวถึงตัวอย่างสองสามประการจากอัลลอฮฺ เพื่อเราจะได้รู้ว่าปวงบ่าวบางคนได้รับความประเสริฐเหล่านั้น แต่เนื่องจากการนำไปใช้ประโยชน์ในทางไม่ดี ความการุณย์เหล่านั้นได้กลายเป็นการลงโทษพวกเขาในบัดดล. การมอบความการุณย์พิเศษจากอัลลอฮฺ แก่ปวงบ่าวบางคนที่บริสุทธิ์มิได้ปราศจากวิทยปัญญา เนื่องจาก อัลลอฮฺผู้ทรงรอบรู้เหตุการณ์ ทรงรู้ดีว่าจะมอบสาส์นของพระองค์แก่ผู้ใด และผู้ใดมีศักยภาพพอสำหรับการรับสาส์นั้น

อัลลอฮฺ ตรัสถึงบ่าวบางคนจากหมู่ชนของมูซา (อ.) ซึ่งตามรายงานเรียกเขาว่า บิลอิลม์ ตรัสว่า : เราได้ยกย่องปวงบ่าวบางคน, และเราได้ให้รางวัลอันเฉพาะแก่เขา นอกจากนั้นยังมอบเกียรติยศแก่เขา [แน่อน มิใช่ตำแหน่งนบีหรือศาสดา] แต่เขากลับนำเอาความการุณย์พิเศษของพระเจ้า ไปเป็นทาสรับใช้อำนาจฝ่ายต่ำของตน และใช้สิ่งนั้นไปในหนทางไม่ดี และเนื่องด้วยการนำไปใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ดีนั่นเอง ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้รับการยกย่องอีกต่อไป ทว่าเขายังต่ำต้อยยิ่งกว่าสุนัขเสียอีก[5]

เมื่อพิจารณาสิ่งที่กล่าวมา,จะได้คำตอบชัดเจนจากคำถามที่ว่า การเลือกสรรศาสดานั้น เกี่ยวข้องกับช่วงเวลาก่อนการถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกนี้หรือไม่? เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า มาตรฐานคือการงานบนโลกนี้, ดังเช่นความหมายของรายงานหนึ่ง เหมือนที่ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวไว้ว่า : อัลลอฮฺ ทรงมีบัญชาแก่เหล่าสหายฝ่ายขวาว่า จงโดดเข้าไปในกองเพลิงเถิด พวกเขาได้ตอบรับ และกระโดดเข้าไปในกองเพลิง ส่วนเหล่าสหายฝ่ายเหนือดื้อดึง และไม่ยอมกระโดดเข้ากองเพลิง[6] ดังนั้น เป็นที่ชัดเจนว่าวัตถุประสงค์ของบุคคล ที่ได้ประพฤติปฏิบัติตนด้วยการเลือกสรรและเจตนารมณ์เสรี พวกเขาได้ก้าวไปสู่การเป็นสหายฝ่ายขวา หรือฝ่ายเหนือ ซึ่งธาตุแท้ของพวกเขาได้ถูกแสดงให้เห็นตั้งแต่ก่อนที่จะลงมายังโลกมนุษย์

ไม่ว่าอย่างไรก็ตามความประเสริฐและความดีกว่า ของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) และบรรดาอิมาม (อ.) เมื่อเทียบกับบุคคลอื่นเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนอยู่แล้ว, ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า : เมื่ออัลลอฮฺ ทรงเริ่มการสร้างสรรค์สรรพสิ่ง พระองค์ทรงให้สิ่งเหล่านั้นปรากฏอยู่ ณ เบื้องพระพักตร์ของพระองค์ และถามพวกเขาว่า ใครคือพระผู้อภิบาลของพวกเจ้า? มีบุคคลหนึ่งได้ตอบโดยกล่าวว่า พระองค์คือพระผู้อภิบาลของพวกเรา, บุคคลนั้นคือ ท่านเราะซูล (ซ็อล ฯ) อิมามอะลี และบรรดาอิมามท่านอื่นๆ (อ.) ดังนั้น อัลลอฮฺ จึงทรงมอบให้พวกเขาเป็นผู้รับผิดชอบความรู้และศาสนา[7]

หรือในบางรายงานท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) กล่าวว่า : »อัลลอฮฺทรงสร้างฉัน อะลี ฟาฏิมะฮฺ ฮะซัน และฮุซัยนฺ 7000 ปี ก่อนที่จะสร้างโลกนี้«[8] ซึ่งวัตถุประสงค์ของท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) คือ การสร้างประกายรัศมีและความเร้นลับด้านจิตวิญญาณ มิใช่หมายถึงการสร้างด้านกายภาพและร่างกาย ซึ่งต้องอาศัยกาลเวลาและสถานที่ สรุปก็คือ ความโปรดปรานของอัลลอฮฺที่มีต่อบรรดาศาสดา และบรรดาอิมาม (อ.) คือ วางอยู่บนพื้นฐานของศักยภาพและความเพียรพยายามของพวกเขา สอง : การให้ความการุณย์พิเศษนี้ ตามความเป็นจริงแล้วเป็นความโปรดปรานชนิดหนึ่ง ที่ทรงมอบแก่ปวงบ่าวทุกคน เพื่อการชี้นำทางพวกเขา, และสิ่งนั้นวางอยู่บนวิทยปัญญาและความยุติธรรม.

 


[1] อัลกุรอาน บทซัจญฺดะฮฺ, 24.

[2] บิฮารุลอันวาร, เล่ม 10, หน้า 170.

[3] ซีดีวิชาการ พะรัซเซมอน

[4] อายะตุลลอฮฺ มิซบาฮฺ ยัซดี, พิช เนยอซฮอเยะ มุดีรียัต อิสลามมี, หน้า 56

[5] อายะตุลลอฮฺ มิซบาฮฺ ยัซดี, ดัรพัรทูร วิลายะฮฺ, หน้า 56.

[6] บิฮารุลอันวาร, เล่ม 5, หน้า 241.

[7] อ้างแล้วเล่มเดิม, หน้า 224

[8] อ้างแล้วเล่มเดิม, เล่ม 54, หน้า 43.

 

แปลคำถามภาษาต่างๆ
ความเห็น
จำนวนความเห็น 0
กรุณาป้อนค่า
ตัวอย่าง : Yourname@YourDomane.ext
กรุณาป้อนค่า
<< ลากฉัน
กรุณากรอกจำนวนที่ถูกต้องของ รหัสรักษาความปลอดภัย

หมวดหมู่

คำถามสุ่ม

  • ความสำคัญ และปรัชญาของการจัดพิธีกรรมรำลึกถึงท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) คืออะไร?
    7648 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/12/20
    สำหรับการติดตามผลอย่างมีนัยของการให้ความสำคัญและปรัชญาของการจัดพิธีกรรมรำลึกถึงท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) จำเป็นต้องพิจารณาประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้:1. ...
  • แนวทางที่ถูกต้อง และง่ายในการเลือกมัรญิอฺตักลีดที่มีความรู้สูงสุด สำหรับบุคคลที่เพิ่งเข้ารับอิสลาม และไม่สามารถแยกแยะอุละมาอฺได้คืออะไร?
    12943 สิทธิและกฎหมาย 2555/08/22
    การตักลีดกับมุจญฺตะฮิดที่มีความรู้สูงสุด หมายถึงมิได้จำกัดอยู่แค่บุคคลที่มีความเชื่ยวชาญพิเศษเฉพาะปัญหาฟิกฮฺ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น การปฏิบัติหน้าที่ตามหลักชัรอียฺของตนนั้น จำเป็นต้องปฏิบัติตามมุจญฺตะฮิดที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ สมบูรณ์ในเรื่องฟิกฮฺ และต้องเป็นผู้รู้ที่มีความรู้มากกว่ามุจญฺตะฮิดด้วยกัน ในสมัยของตน และมุจญฺตะฮิดที่มีความรู้สูงสุดสามารถรู้จักได้จากหนึ่ง 3 วิธีดังนี้ : หนึ่ง : ตัวเราต้องมั่นใจด้วยตัวเอง สอง : มีผู้รู้สองคนที่ยุติธรรมยืนยันในความรู้ของมุจญฺตะฮิดท่านนั้น สาม : ผู้รู้กลุ่มหนึ่งได้ยืนยันและรับรองการเป็นมุจญฺตะฮิด และการเป็นผู้มีความรู้สูงสุดของเขา น่ายินดีว่าปัจจุบันบรรดาคณาจารย์ระดับสูงของสถาบันสอนศาสนา ณ เมืองกุม ได้แนะนำผู้รู้ที่มีคุณสมบัติของมุจญฺตะฮิดสมบูรณ์ ในฐานะของมัรญิอฺตักลีดไว้หลายคนด้วยกัน ซึ่งมุสลิมทุกคนสามารถเลือกปฏิบัติตามอุละมาอฺเหล่านั้น ในฐานะมัรญิอฺตักลีด ท่านหนึ่งท่านใดก็ได้ และกิจการงานของตนให้ถือปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของท่าน ที่มีอยู่ในริซาละฮฺ เตาฎีฮุลมะซาอิล ในกรณีนี้ท่านจะมั่นใจได้ว่าได้ปฏิบัติหน้าที่ทางชัรอียฺของท่านแล้ว และปัจจุบันเนื่องจากการติดต่อสื่อสารนั้นสะดวกสบาย และเป็นไปได้ในรูปแบบต่างๆ มีหลายภาษาให้เลือก ดังนั้น สำหรับบุคคลที่เพิ่งเข้ารับอิสลาม สามารถรับรู้ข้อมูลนี้ได้อย่างง่ายดาย ...
  • เพราะเหตุใดกุญแจสู่สรวงสวรรค์คือ นมาซ?
    7623 จริยธรรมทฤษฎี 2555/05/17
    เป้าหมายของการสร้างมนุษย์ก็เพื่อ การแสดงความเคารพภักดีและการรู้จักพระเจ้า, ซึ่งการแสดงความเคารพภักดีต่อพระเจ้านั้น จะทำให้มนุษย์ก้าวไปสู่ความสมบูรณ์ และตำแหน่งอันใกล้ชิดต่อพระเจ้า, นมาซ คือภาพลักษณ์ที่ดีและสวยงามที่สุดของการแสดงความเคารพภักดีต่อพระเจ้า หรือการแสดงความเป็นบ่าวที่ดีต่อพระผู้ทรงสร้าง, ความเคร่งครัดต่อนมาซ 5 เวลาคือสาเหตุของความประเสริฐและเป็นพลังด้านจิตวิญญาณ ซึ่งทำให้มนุษย์ละเว้นการทำความผิดบาป หรือการแสดงความประพฤติไม่ดี อีกด้านหนึ่งเป็นการสนับสนุนส่งเสริมให้พลังแห่งความสำรวมตน ภายในจิตใจมนุษย์มีความเข้มแข็งขึ้น, ในกรณีนี้ เข้าใจได้ทันทีว่า เพราะอะไรนมาซ, จึงเป็นกุญแจสู่สรวงสวรรค์ ต้องไม่ลืมที่จะกล่าวว่า, นมาซคือหนึ่งในภาคปฏิบัติที่เป็นอิบาดะฮฺ อันมีผลบุญคือ เป็นกุญแจสู่สรวงสวรรค์, เนื่องจากรายงานฮะดีซ,เกี่ยวกับความรักที่มีต่อบรรดาอิมามผู้บริสุทธิ์ (อ.) คือ การกล่าวว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ, ความอดทน ...ก็ถือว่าเป็นกุญแจแห่งสรวงสวรรค์เช่นกัน, และเช่นกันสิ่งที่เข้าใจได้จากรายงานที่ว่า นมาซพร้อมกับความศรัทธามั่นที่มีต่ออัลลอฮฺ ความเป็นเอกะของพระองค์ ขึ้นอยู่กับความรักที่มีต่อบรรดาอะฮฺลุลบัยตฺ (อ.) เป็นความสัมพันธ์เกี่ยวข้องที่มีความพิเศษยิ่งต่อกัน ...
  • การปรากฏกายชั้นศุฆรอเป็นหัวข้อหนึ่งในหลักมะฮ์ดะวียัตหรือไม่?
    6113 เทววิทยาดั้งเดิม 2555/03/07
    การปรากฏกายชั้นศุฆรอเป็นสำนวนที่เกี่ยวโยงกับการเร้นกายขั้นศุฆรอ ซึ่งต้องการจะสื่อว่า ในเมื่อท่านอิมามมะฮ์ดี(อ.)เคยมีการเร้นกายขั้นศุฆรอ(เล็ก)ก่อนการเร้นกายขั้นกุบรอ(ใหญ่) ก็ย่อมจะมีการปรากฏกายชั้นศุฆรอก่อนจะปรากฏกายขั้นกุบรอระดับโลกเช่นกัน อนึ่ง สำนวนดังกล่าวไม่มีพื้นเพจากฮะดีษใดๆ ...
  • ทั้งที่ท่านอิมามอลี (อ.) ทราบถึงเจตนาชั่วของอิบนิ มุลญัม เหตุใดท่านจึงไม่ปกป้องชีวิตตนเอง?
    6496 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/12/29
    เหตุผลที่ท่านอิมามอลีไม่แก้ไขเหตุที่จะเกิดในอนาคตก็คือ:1.ความรู้ระดับทั่วไปคือหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติภารกิจ:เพื่อเป็นการเคารพกฏเกณฑ์ของอัลลอฮ์ท่านอิมามจึงเลือกที่จะปฏิบัติหน้าที่เสมือนบุคคลทั่วไปโดยจะไม่ปฏิบัติตามความรู้แจ้งเห็นจริงเนื่องจากว่าหากท่านจะปฏิบัติตามญาณวิเศษย่อมจะไม่สามารถเป็นแบบฉบับแก่บุคคลทั่วไปได้เพราะบุคคลทั่วไปไม่มีญาณวิเศษ2. กลไกของโลกดุนยาตั้งอยู่บนพื้นฐานของการทดสอบซึ่งหากจะปฏิบัติตามญาณวิเศษก็ย่อมจะทำให้กลไกดังกล่าวเสียหายเนื่องจากจะทำลายชีวิตประจำวันของผู้คนสรุปคือแม้ว่าอิมามอลีมีหน้าที่ต้องรักษาชีวิตเสมือนบุคคลทั่วไปแต่ทว่าประการแรก: หน้าที่ดังกล่าวอยู่ในขอบเขตความรู้ทั่วไปมิไช่ญาณวิเศษประการที่สอง: คู่กรณีของท่าน(อิบนิมุลญัม)
  • การยกภูเขาฏู้รขึ้นเหนือศีรษะบนีอิสรออีลหมายความว่าอย่างไร?
    7035 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/04/02
    ในหลายโองการมีสำนวน وَ رَفَعْنا فَوْقَكُمُ الطُّور ปรากฏอยู่ ซึ่งล้วนเกี่ยวกับบนีอิสรออีลทั้งสิ้น ตำราอรรถาธิบายกุรอานอธิบายว่าโองการเหล่านี้กล่าวถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากความดื้อรั้นของบนีอิสรออีลในยุคของท่านนบีมูซา(อ.) อัลลอฮ์ย่อมมีพลานุภาพที่จะยกภูเขาฏู้รบางส่วนให้ลอยขึ้นเหนือศีรษะของบนีอิสรออีล ดังที่ทรงเคยสร้างดวงดาวนับล้านๆดวง สร้างจักรภพและจักรวาลให้เคลื่อนที่ในอวกาศโดยมีระยะห่างที่เหมาะสม การที่จะเกิดเหตุการณ์ดังที่กุรอานเล่าไว้จึงไม่ไช่เรื่องเหลือเชื่อในแง่วิทยาศาสตร์และสติปัญญา ...
  • การรักษาอาการพูดมาก มีแนวทางใดบ้าง?
    12781 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/12/21
    ลิ้นนอกจากจะเป็นความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ของอัลลอฮฺแล้วยังเป็นสื่อในการพัฒนาการและเป็นเครื่องมือติดต่อกับคนอื่นอีกด้วย, ขณะเดียวกันลิ้นก็ยังมีความเสียหายรวมอยู่ด้วยอย่างมากมายและยังสามารถเป็นแหล่งเพาะพันธ์ความผิดบาปต่างๆได้อีกเป็นจำนวนมหาศาลอีกด้วย, สำหรับการควบคุมลิ้นและการใช้ประโยชน์ในที่จำเป็นและมีความสำคัญนั้นในตอนเช้าหลังจากตื่นนอนทุกเช้าจงเตือนตัวเองว่าโปรดระวังรักษาลิ้นของตนให้ดี
  • ประโยค “ทุกวันคือาชูรอ ทุกแผ่นดินคือกัรบะลา” เป็นฮาดีษหรือไม่? มีหลักฐานเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวมากน้อยเพียงใด
    8963 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/03
    จากการศึกษาตำราฮะดีษ  เราไม่พบหลักฐานใดๆที่ระบุว่าประโยคดังกล่าวเป็นฮาดีษบรรดามะศูมีนอย่างไรก็ดี ประโยคนี้ให้นิยามเหตุการณ์กัรบะลา
  • การขอความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ จะเข้ากันกับเตาฮีดหรือไม่
    8623 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/08/22
    ถ้าเป็นการขอความช่วยเหลือจากสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮฺ ด้วยความเชื่อที่ว่าบรรดาหมู่มิตรของอัลลอฮฺ ท่านเหล่านั้นคือผู้ทำให้คำวิงวอนขอของท่านสมประสงค์ ซึ่งไม่จำเป็นต้องวิงวอนขอต่ออัลลอฮฺอีก แน่นอน สิ่งนี้เป็นชิริกฮะรอม และเท่ากับเป็นการกระทำที่ต่อต้านเตาฮีด ถือว่าไม่อนุญาตให้กระทำเด็ดขาด แต่ถ้ามีความเชื่อว่า บรรดาท่านเหล่านี้จะทำให้คำวิงวอนของท่านถูกตอบรับ โดยอนุมัติของอัลลอฮฺ และโดยอำนาจที่พระองค์แก่พวกเขา ซึ่งสิ่งนี้นอกจากจะไม่เป็นชิริกแล้ว ทว่ายังเป็นหนึ่งในความหมายของเตาฮีด ซึ่งไม่มีอุปสรรคอันใดทั้งสิ้น ...
  • อิมามมะฮ์ดีสมรสแล้วหรือยัง?
    7974 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/11/09
    แม้จะเป็นไปได้ว่าท่านอิมามมะฮ์ดี(อ.)อาจมีคู่ครองและบุตรหลาน เนื่องจากภาวะการเร้นกายมิได้จำกัดว่าจะท่านต้องงดกระทำการสมรสอันเป็นซุนนะฮ์แต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราไม่พบเหตุผลใดๆที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้ สันนิษฐานว่าสาเหตุที่ประเด็นดังกล่าวไม่เป็นที่เปิดเผยนั้น อาจเป็นผลพวงมาจากความจำเป็นที่พระองค์ทรงเร้นกายท่านจากสายตาผู้คนนั่นเอง ...

เนื้อหาที่มีผู้อ่านมากที่สุด

  • อะไรคือหน้าที่ๆภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีบ้าง?
    60039 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/07
    ความมั่นคงของชีวิตคู่ขึ้นอยู่กับความรักความผูกพัน ความเข้าใจ การให้เกียรติและเคารพสิทธิของกันและกัน และเพื่อที่สถาบันครอบครัวจะยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น อิสลามจึงได้ระบุถึงสิทธิของทั้งภรรยาและสามี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดหน้าที่สำหรับทั้งสองฝ่ายไว้ด้วย เนื่องจากเมื่ออัลลอฮ์ประทานสิทธิ ก็มักจะกำหนดหน้าที่กำกับไว้ด้วยเสมอ ข้อเขียนนี้จะนำเสนอหน้าที่ทางศาสนาบางส่วนที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีดังต่อไปนี้:1. ...
  • ดุอาใดบ้างที่ทำให้ได้รับพรเร็วที่สุด?
    57407 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/07/03
    มีดุอาที่รายงานจากอิมาม(อ.)หลายบทที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาดุอาทั้งหมด ณ ที่นี้ได้ จึงขอกล่าวเพียงชื่อดุอาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังต่อไปนี้1. ดุอาตะวัซซุ้ล2. ดุอาฟะร็อจ
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    42130 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • ด้วยเหตุผลอันใดที่ต้องกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อน บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม?
    39199 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัลกุรอาน ซึ่งมีกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และรายงานฮะดีซคือ การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อนที่จะเริ่มอ่านอัลกุรอาน หรือแม้แต่ให้กล่าวก่อนที่จะกล่าว บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลที่ว่า บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม นั้นเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน อย่างไรก็ตามการขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ มิใช่แค่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น ทว่าสิ่งนี้จะต้องฝังลึกอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา ซึ่งต้องสำนึกสิ่งนี้อยู่เสมอตลอดการอ่านอัลกุรอาน ...
  • ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์(นักเรียนนักศึกษา)มีหน้าที่ต่อกันอย่างไร?
    38864 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/11/14
    ผู้สอนและผู้เรียนมีหน้าที่ต่อกันหลายประการด้วยกันซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองส่วนก. หน้าที่ที่ผู้สอนมีต่อผู้เรียนอันประกอบด้วยหน้าที่ทางจริยธรรมการอบรมและวิชาการ ข. หน้าที่ที่ผู้เรียนมีต่อผู้สอนอาทิเช่นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ยกย่องวิทยฐานะของท่านนอบน้อมถ่อมตน ...ฯลฯ ...
  • ก่อนการสร้างนบีอาดัม(อ) เคยมีการแต่งตั้งญินให้เป็นศาสนทูตสำหรับฝ่ายญินหรือไม่?
    33934 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/12
    อัลกุรอานยืนยันการมีอยู่ของเหล่าญินรวมทั้งได้อธิบายคุณลักษณะบางประการไว้ถึงแม้ว่าข้อมูลของเราเกี่ยวกับโลกของญินจะค่อนข้างจำกัดแต่เราสามารถพิสูจน์ว่าเหล่าญินเคยมีศาสนทูตที่เป็นญินก่อนการสร้างนบีอาดัมโดยอาศัยเหตุผลต่อไปนี้:1. เหล่าญินล้วนมีหน้าที่ทางศาสนาเฉกเช่นมนุษย์เราแน่นอนว่าหน้าที่ทางศาสนาย่อมเป็นผลต่อเนื่องจากการสั่งสอนศาสนาด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าอัลลอฮ์ทรงเคยแต่งตั้งศาสนทูตสำหรับกลุ่มชนญินเพื่อการนี้2. เหล่าญินล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาในวันกิยามะฮ์เฉกเช่นมนุษย์เราซึ่งโดยทั่วไปแล้วก่อนกระบวนการพิพากษาทุกกรณีจะต้องมีการชี้แจงข้อกฏหมายจนหมดข้อสงสัยเสียก่อนและการชี้แจงให้หมดข้อสงสัยคือหน้าที่ของบรรดาศาสนทูตนั่นเอง
  • เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรอบรู้เหนือโลกและจักรวาล ฉะนั้น วัตถุประสงค์การทดสอบของอัลลอฮฺคืออะไร?
    27952 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/03/08
    ดังที่ปรากฏในคำถามว่าการทดสอบของอัลลอฮฺไม่ได้เพื่อการค้นหาสิ่งที่ยังไม่รู้เนื่องจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรีชาญาณเหนือทุกสรรพสิ่งแต่อัลกุรอานหลายโองการและรายงานที่ตกมาถึงมือเรากล่าวว่าการทดสอบเป็นแบบฉบับหนึ่งและเป็นกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่วางอยู่บนแบบฉบับอื่นๆอันได้แก่การอบบรมสั่งสอนการชี้นำโดยรวมของพระเจ้าอัลลอฮฺ
  • ปีศาจ (ซาตาน) มาจากหมู่มะลาอิกะฮฺหรือญิน ?
    27869 การตีความ (ตัฟซีร) 2553/12/22
    เกี่ยวกับคำถามที่ว่าชัยฎอนเป็นมะลาอิกะฮฺหรือญินมีมุมมองและทัศนะแตกต่างกันแหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้เกิดจากเรื่องราวการสร้างนบีอาดัม (อ.) เนื่องจากเป็นคำสั่งของพระเจ้ามวลมะลาอิกะฮ์ทั้งหลายจึงได้กราบสุญูดอาดัมแต่ซาตานไม่ได้ก้มกราบบางคนกล่าวว่าชัยฎอน (อิบลิส) เป็นมะลาอิกะฮฺ, โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากโองการอัลกุรอานกล่าวละเว้น, อิบลิสไว้ในหมู่ของมะลาอิกะฮฺ (มะลาอิกะฮ์ทั้งหมดลดลงกราบยกเว้นอิบลิส) ดังนั้นอิบลิส
  • อายะฮ์ إِذا مَا اتَّقَوْا وَ آمَنُوا وَ عَمِلُوا الصَّالِحاتِ ثُمَّ اتَّقَوْا وَ آمَنُوا ثُمَّ اتَّقَوْا وَ أَحْسَنُوا وَ اللَّهُ یُحِبُّ الْمُحْسِنین การกล่าวซ้ำดังกล่าวมีจุดประสงค์ใด?
    27678 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/07
    ในแวดวงวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการย้ำคำว่าตักวาในโองการข้างต้นบ้างเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นเกี่ยวกับตักวาอีหม่านและอะมั้ลที่ศอลิห์
  • เมื่ออัลลอฮฺ มิทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายจากสิ่งใดทั้งหมด, หมายความว่าอำนาจของพระองค์ได้ถ่ายโอนไปสู่วัตถุปัจจัยกระนั้นหรือ?
    25699 รหัสยทฤษฎี 2555/05/17
    ใช่แล้ว การสร้างจากสิ่งไม่มีตัวตนมีความหมายตามกล่าวมา, เนื่องจากคำว่า ไม่มีตัวตน คือไม่มีอยู่ก่อนจนกระทั่งอัลลอฮฺ ทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้เช่นกันว่า อำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคุณลักษณะอื่นของพระองค์ ซึ่งเกินเลยอำนาจความรอบรู้ของมนุษย์ เนื่องจากสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายได้ถูกสร้างขึ้นมา จากสิ่งไม่มี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย เปรียบเสมือนภาพที่ถ่ายโอนอำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า เราเรียกนิยามนี้ว่า “การสะท้อนภาพ”[1]ซึ่งในรายงานฮะดีซได้ใช้คำว่า “การเกิดขึ้นของคุณลักษณะ” : อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราที่มีความเป็นนิรันดร์ ความรอบรู้คือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีความรอบรู้อันใด การได้ยินคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการได้ยินใดๆ การมองเห็นคือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการมองเห็นอันใด อำนาจคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีอำนาจอันใด และเนื่องจากพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีและเป็นไป ความรู้ของพระองค์ได้ปรากฏบนสิ่งถูกรู้จักทั้งหลาย การได้ยิน ได้ปรากฏบนสิ่งที่ได้ยินทั้งหลาย การมองเห็นได้ปรากฏบนสิ่งมองเห็น และอำนาจของพระองค์ ...